• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


🎯🛒การเจาะสำรวจดิน (Soil Boring Test) 🦖จุดเริ่มต้นที่ดีของ✨โครงการก่อสร้าง✨

Started by Naprapats, Jul 30, 2024, 09:09 AM

Previous topic - Next topic

Naprapats

สภาพชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยนั้นอาจมีความแปรปรวนของชั้นดิน 👉ทำให้สภาพพื้นที่แตกต่างไปจากพื้นที่ทั่วไป ⚡เช่น ชั้นทรายหลวมผิดปกติ ชั้นดินเหนียวอ่อน หรือความลึกของชั้นดินแข็งแรงมีความผันแปรสูง 🦖เป็นต้น จากลักษณะของชั้นดินนี้ อาจทำให้ฐานรากพังได้ 🎯ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนที่การออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น ⚡จึงต้องจัดให้มีการเจาะสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นไปอย่างละเอียดรอบครอบ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม 👉เพื่อการวิเคราะห์ดินอย่างละเอียด 🦖เมื่อทราบข้อมูลดินบางส่วนแล้ว จะต้องมีการวางแผนการเจาะดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและเงินทุน พร้อมกับได้ข้อมูลที่ถูกต้อง 🌏เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ต่าง ๆ 🛒จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะกับดินทุกประเภท📌



โครงสร้างต่าง ๆ 📌จะมีความแข็งแรง ต้องรองรับด้วยฐานรากที่มั่นคง 📌ในการออกแบบฐานรากนั้น การสำรวจชั้นดินมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ✅ที่จะทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม 📌สำหรับขอบเขตและรายละเอียดของงานที่จะทำการสำรวจนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการ 👉และสภาพของชั้นดิน 📢โดยวิศวกรออกแบบควรเป็นผู้กำหนดรายละเอียดของการสำรวจชั้นดินเพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์และออกแบบอย่างเพียงพอ 📌บริการทดสอบดินและจัดทำรายงานวิเคราะห์ความยาวเสาเข็ม โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ🛒

การเจาะสำรวจดินในเบื้องต้น 🎯เป็นการเจาะหรือขุดดินเพียงเล็กน้อย 🥇เพื่อต้องการรู้ชนิดของดิน การเรียงตัวของชั้นดิน ✨ระดับน้ำใต้ดิน อันจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนและเตรียมเครื่องมือได้อย่างเหมาะสม 🎯ส่วนการเจาะดินโดยละเอียดนั้น เป็นการวางแผนการเจาะชั้นดินอย่างละเอียด 🥇โดยทั่วไปจะระบุ ตำแหน่งเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะดิน ความลึกของหลุมสำรวจ🌏 และการทดสอบที่ต้องดำเนินการ 🎯โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับทำข้อมูลความแข็งแรงของดินและข้อมูลเพื่อใช้คำนวณหาการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง📢

✨🥇🛒ลักษณะการเก็บตัวอย่างดิน คือ🎯✅👉

👉1. ดินที่ถูกรบกวน (Disturbed Sample) 📢เป็นตัวอย่างดินที่ถูกรบกวน 👉จนทำให้โครงสร้าง หรือการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนไป 🥇หรืออาจจะสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากวิธีการเก็บตัวอย่างดิน✅ กระบวนการขนส่ง และการเก็บรักษา 🛒ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บด้วยสว่านมือ ✅และตัวอย่างดินที่ตอกด้วยกระบอกผ่า ตัวอย่างดินเหล่านี้ไม่สามารถใช้ทดสอบกำลังรับน้ำหนักได้ 🥇เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทก การอัด 👉ซึ่งโครงสร้างของดินได้เปลี่ยนไป แต่สามารถนำไปหาคุณสมบัติเพื่อจำแนกประเภทของดินได้✨

👉2. ตัวอย่างดินคงสภาพ (Undisturbed Sample) 🌏เป็นตัวอย่างดินที่เก็บในสนาม ✨โดยพยายามให้ทั้งโครงสร้างและองค์ประกอบของดินทุกอย่างเหมือนกับสภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสนาม 🌏ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บจากกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป 👉ถือว่าเป็นตัวอย่างดินที่มีคุณภาพดีที่สุด 📢สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการเกือบทุกอย่าง 🦖รวมถึงการทดสอบความแข็งแรงและการรับน้ำหนักของดิน🦖