Field Density Test เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยตรวจตราความหนาแน่นของดินในสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงงานก่อสร้างที่เกี่ยวกับการถมดินหรือปรับระดับดิน เป็นต้นว่า งานสร้างถนน อาคาร หรือเขื่อน สำหรับในการดำเนินการทดสอบนี้ มีวิธีการที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ดังเช่นว่า Sand Cone Method และ Nuclear Density Gauge แต่ละวิธีมีข้อดี จุดด้วย รวมทั้งความเหมาะสมไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของแผนการและข้อจำกัดในสถานที่จริง
เนื้อหานี้จะเปรียบเทียบรายละเอียดของทั้งสองแนวทาง เพื่อช่วยทำให้วิศวกรแล้วก็ผู้รับเหมาสามารถเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับโครงการของตนได้
(https://i0.wp.com/soilboringtest.com/wp-content/uploads/2024/07/Field-Density-Test.jpg)
📌🦖🎯
Field Density Test คืออะไร?
Field Density Test เป็นกรรมวิธีวัดค่าความหนาแน่นของดินในสถานที่จริง เพื่อตรวจตราว่าดินมีค่าความหนาแน่นรวมทั้งความแข็งแรงพอเพียงสำหรับรองรับองค์ประกอบหรือไม่ โดยค่าที่วัดได้จะถูกเปรียบเทียบกับค่าความหนาแน่นมาตรฐาน (Maximum Dry Density) ที่ได้จากการทดสอบในห้องทดลอง ดังเช่นว่า Proctor Test
-------------------------------------------------------------
ให้บริการ เจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท เจาะสํารวจดิน บริการ Boring Test วิเคราะห์และทดสอบดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/ (https://www.facebook.com/exesoiltest/)
-------------------------------------------------------------
⚡✨🥇Sand Cone Method
Sand Cone Method เป็นกรรมวิธียอดนิยมสำหรับในการทดลองความหนาแน่นของดิน เพราะเหตุว่ามีขั้นตอนที่ไม่สลับซับซ้อนและไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนสูง
กรรมวิธีทดลอง
-เตรียมพื้นที่ทดสอบ
ชำระล้างผิวดินรวมทั้งเลือกจุดที่สมควร
-เจาะหลุมในดิน
ใช้เครื่องมือเจาะหลุมในดินให้มีขนาดและความลึกที่ระบุ
-เติมทรายมาตรฐาน
เพิ่มทรายมาตรฐานผ่านกรวยทรายลงในหลุมจนเต็ม
-คำนวณความจุหลุม
วัดจำนวนทรายที่เติมในหลุมเพื่อคำนวณค่าความจุ
-คำนวณความหนาแน่นของดิน
นำค่าที่ได้ไปคำนวณหาความหนาแน่นของดิน
ข้อดีของ Sand Cone Method
-ใช้อุปกรณ์ที่ไม่ซับซ้อน
-เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ปราศจากความเสี่ยงจากการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสี
-มีค่าใช้จ่ายสำหรับเพื่อการจัดการต่ำ
ข้อบกพร่องของ Sand Cone Method
-ใช้เวลานานเมื่อเทียบกับแนวทางอื่น
-อาจกำเนิดจุดบกพร่องได้ง่ายถ้าหากการเจาะหลุมหรือการเติมทรายไม่ถูกจำต้อง
-ไม่เหมาะสำหรับดินที่มีน้ำหรือมีลักษณะเป็นโคลน
📢🌏⚡Nuclear Density Gauge
Nuclear Density Gauge เป็นวิธีที่ใช้อุปกรณ์ที่สำหรับใช้ในการวัดที่อาศัยพลังงานกัมมันตรังสีสำหรับการวัดค่าความหนาแน่นของดินแล้วก็ปริมาณน้ำในดิน
วิธีการทดสอบ
-ตระเตรียมพื้นที่ทดสอบ
ชำระล้างผิวดินรวมทั้งเลือกจุดที่สมควร
-จัดตั้งเครื่องมือวัด
วาง Nuclear Density Gauge บนพื้นที่ทดสอบ
-ดำเนินงานวัด
เครื่องมือปล่อยพลังงานกัมมันตรังสีไปสู่ดินและวัดค่าความหนาแน่น
-อ่านค่าผล
บันทึกค่าความหนาแน่นและก็จำนวนน้ำที่เครื่องมือแสดง
-เปรียบผลลัพธ์
นำค่าที่วัดได้ไปเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน
ข้อดีของ Nuclear Density Gauge
-เร็วและได้ผลลัพธ์ทันที
-ถูกต้องสูงสำหรับพื้นที่ที่อยากวิเคราะห์จำนวนน้ำในดิน
-เหมาะสำหรับแผนการขนาดใหญ่ที่อยากได้พิจารณาหลายพื้นที่
จุดด้วยของ Nuclear Density Gauge
-ปรารถนาผู้ปฏิบัติการที่มีความเชี่ยวชาญและก็ได้รับการอบรมเฉพาะทาง
-เครื่องใช้ไม้สอยมีค่าใช้จ่ายสูง
-ต้องกระทำตามกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัยสำหรับการใช้สารกัมมันตรังสี
👉📢🌏การเลือกวิธีที่เหมาะสม
การเลือกแนวทางที่สมควรสำหรับ Field Density Test (https://soilboringtest.com/seismic-test/) ขึ้นกับลักษณะของโครงการรวมทั้งทรัพยากรที่มี ยกตัวอย่างเช่น
-สำหรับโครงงานขนาดเล็กที่ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา Sand Cone Method บางทีอาจเป็นตัวเลือกที่สมควร
-สำหรับแผนการขนาดใหญ่ที่อยากได้ผลสรุปรวดเร็วทันใจแล้วก็มีความแม่นยำ Nuclear Density Gauge อาจเป็นตัวเลือกที่ดียิ่งกว่า
✅👉📢ข้อควรไตร่ตรองสำหรับการปฏิบัติงาน
1.การเลือกพื้นที่ทดสอบ
ควรจะเลือกพื้นที่ที่เป็นผู้แทนของพื้นที่ทั้งหมดที่อยากตรวจตรา
2.การบำรุงรักษาเครื่องมือ
อุปกรณ์ทุกชนิดควรจะได้รับการตรวจสอบรวมทั้งทะนุบำรุงอย่างเหมาะสมเพื่อความแม่นยำสำหรับในการใช้งาน
3.การฝึกอบรมผู้ปฏิบัติการ
คนที่ปฏิบัติการทดสอบควรมีความเชี่ยวชาญและได้รับการฝึกอบรมในขั้นตอนการที่เลือกใช้
✅👉📢ผลสรุป
Field Density Test เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยทำให้มั่นใจว่าดินในพื้นที่ก่อสร้างมีความหนาแน่นและความแข็งแรงเพียงพอสำหรับการรองรับส่วนประกอบ การเลือกใช้กระบวนการทดลองที่สมควร ตัวอย่างเช่น Sand Cone Method หรือ Nuclear Density Gauge จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับในการพิจารณาและลดความเสี่ยงในโครงการ
การตัดสินใจเลือกวิธีที่สมควรควรใคร่ครวญจากความปรารถนาของแผนการ ลักษณะของพื้นที่ แล้วก็ทรัพยากรที่มี เพื่อให้การจัดการทดสอบสามารถสนับสนุนจุดหมายของโครงการได้อย่างมีคุณภาพและก็ไม่มีอันตราย
สุดยอดมากครับ
สอบถามราคาค่าบริการได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ
สุดยอดมากครับ
สอบถามราคาทดสอบได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ
สอบถามราคาค่าบริการได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
สอบถามราคาค่าบริการได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
น่าสนใจครับ
สุดยอดมากค่ะ
ขอบคุณครับ
ทดสอบความหนาแน่นหินคลุกราคาเท่าไหร่คะ
ค่าทดสอบ Seismic Test เท่าไหร่คะ
ขอบคุณครับ
ทดสอบความหนาแน่นของดินในสนามราคาเท่าไหร่ครับ
สอบถามราคาทดสอบได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
ราคา soil test เท่าไหร่คะ
ทดสอบความหนาแน่นหินคลุกราคาเท่าไหร่คะ
น่าสนใจครับ
ทดสอบความหนาแน่นหินคลุกราคาเท่าไหร่คะ
ขอบคุณค่ะ
สอบถามราคาค่าบริการได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ
ค่าทดสอบ Seismic Test เท่าไหร่คะ
ค่าทดสอบ Seismic Test เท่าไหร่คะ
ขอบคุณค่ะ
ค่าทดสอบ Seismic Test เท่าไหร่คะ
ขอบคุณค่ะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
ขอบคุณค่ะ
ทดสอบความหนาแน่นของดินในสนามราคาเท่าไหร่ครับ
เข้าใจแล้วครับ
สุดยอดมากค่ะ
ค่าทดสอบ Seismic Test เท่าไหร่คะ
สุดยอดมากค่ะ
สุดยอดมากครับ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
น่าสนใจค่ะ
ทดสอบความหนาแน่นของดินในสนามราคาเท่าไหร่ครับ
สอบถามราคาทดสอบได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
น่าสนใจครับ
สุดยอดมากครับ
สุดยอดมากค่ะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ
เข้าใจแล้วครับ
เข้าใจแล้วครับ
สอบถามราคาทดสอบได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ
ทดสอบความหนาแน่นหินคลุกราคาเท่าไหร่คะ
สอบถามราคาค่าบริการได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
สอบถามราคาค่าบริการได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Tel: 064 702 4996 นะคะ
น่าสนใจครับ
ขอบคุณครับ
สุดยอดมากค่ะ
สอบถามราคาทดสอบได้ที่ Line ID: @exesoil นะคะ
ขอบคุณค่ะ
ทดสอบความหนาแน่นหินคลุกราคาเท่าไหร่คะ
ราคา soil test เท่าไหร่คะ
น่าสนใจครับ